มาตรฐานการกำจัดปลวก (Termites Control Application Standard)
- สำรวจบริเวณที่ได้รับความเสียหาย และบริเวณที่สงสัยว่ากำลังจะเกิดความเสียหาย หรือจุดอื่นๆ ที่มีโอกาสจะถูกทำลายได้ง่าย ทั้งภายในและภายนอกตัวอาคาร
- เจาะพื้นอัดน้ำยาเคมีลงดิน บริเวณแนวคาน, บริเวณโคนเสา หรือส่วนที่เห็นว่าเป็นจุดล่อแหลมต่อการบุกรุกเข้าลายของปลวกใต้ดิน หรืออัดน้ำยาเข้าท่อน้ำยา (ในครั้งแรก)
- ฉีดพ่น (Spraying) น้ำยาเคมีภายในและรอบนอกอาคาร ตามรอยแตก รอยร้าว และจุดที่พบปัญหา
- ตรวจเช็คใส่เคมีผงในส่วนที่คาดว่าจะเกิดปัญหาปลวก หรือส่วนที่เป็นจุดอ่อนของตัวอาคารนั้นๆ กับส่วนที่ได้เกิดปัญหาปลวกขึ้นแล้ว (เคมีผงเป็นเคมีที่มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดปลวกกล่าวคือ ปลวกที่โดนเคมีผงไปแล้วนั้นจะยังไม่ตายในทันที แต่จะตายภายใน 7-15 วัน ซึ่งโดยธรรมชาติของปลวกแล้ว เวลาเดินจะต้องทักกัน โดยหันหน้าชนกับตัวที่เดินสวนมา เคมีผงที่ติดกับตัวหนึ่งๆ จะแพร่ขยายไปยังตัวอื่นๆ ทำให้เกิดการตายทั้งรังได้นั่นเอง)
- ติดตามผลและควบคุมปัญหาอย่างต่อเนื่อง
- การขอความร่วมมือในการป้องกันกำจัดปลวกเบื้องต้น เช่น การจัดวางของเครื่องใช้ที่ทำด้วยไม้ และตู้เสื้อผ้าไม่ควรวางชิดผนัง / กำแพง เพราะการตรวจเช็คจะกระทำได้ยาก
ขั้นตอนปฏิบัติงาน
ช่างเทคนิคของบริษัทฯ จะเริ่มปฏิบัติงานหลังจากการถมอัดดินทรายชั้นสุดท้ายจนแน่นเรียบร้อยแล้ว เตรียมพร้อมสำหรับการปิดแผ่นพื้นหรือเทคอนกรีตหล่อพื้นอาคาร
- งานปักอัดน้ำยาเคมีลงดิน
- บ้านระหว่างก่อสร้าง
ใช้หัวอัดน้ำยา Bub Boil Pressure Injection อัดน้ำยาลงดินให้ห่างจากแนวคานด้านในประมาณ 30 ซม. โดยแต่ละจุดเว้นระยะห่างกันประมาน 1 – 1.5 เมตร ตลอดแนวคานด้านในทุกด้าน ส่วนด้านนอกอาคารจะอัดน้ำยาลงดินเช่นกัน โดยให้ห่างจากแนวคานประมาณ 30 ซม. โดยแต่ละจุดเว้นระยะห่างกันประมาณ 1 – 1.5 เมตร ตลอดแนวคานด้านในอาคาร - บ้านสร้างเสร็จแล้ว
ใช้หัวอัดน้ำยา Bub Boil Pressure Injection บริเวณสนามพื้นดินรอบๆ ตัวบ้านเพื่อให้น้ำยาตกค้างบริเวณดินรอบตัวบ้านเพื่อเป็นการป้องกัน ปลวก โดยทำการ Soil Treatment อัดน้ำยาลงดินทุก ๆ 1 ตารางเมตร
- บ้านระหว่างก่อสร้าง
- งานฉีดพ่น
ใช้หัวฉีดพ่นน้ำยา (Surface Sprayer) ฉีดเคลือบพื้นดินภายในโครงสร้างอาคารทั้งหมดแบบปูพรมทุกตารางนิ้ว และฉีดเคลือบพื้นดินตามแนวคานทั้งด้านในและด้านนอกตัวอาคารตลอดแนบขอบ ซึ่งการฉีดพ่นแบบปูพรมจะครอบคลุมทุกจุดของพื้นที่ก่อสร้างอาคาร จึงไม่เหลือทางผ่านเข้าสู่อาคารของปลวกได้ - งานฝังหมุด
หลังจากที่บ้านสร้างเสร็จแล้ว ช่างเทคนิคของบริษัทฯ จะติดตั้งหมุดโลหะสแตนเลส บริเวณปล่องชาร์ป เพื่อสำหรับเปิดอัด น้ำยาเคมีป้องกันปลวกแบบถาวร ซึ่งหมุดนี้สามารถเปิด-ปิดได้ตลอดเวลา บริเวณนี้เป็นจุดสำคัญที่ปลวกใช้สร้างทางเดินเพื่อหาอาหารไปสู่รังใต้ดิน และทำการตัดแต่งหัวอัดน้ำยาบริเวณรอบๆบ้านให้เรียบร้อยทุกจุด - งานตรวจเช็ค
ช่างเทคนิคจะเข้าบริการตรวจเช็คอย่างละเอียดเป็นระยะๆ ตลอดอายุสัญญา โดยการเข้าบริการตรวจเช็คจะเข้าบริการ 6 เดือน/ ครั้ง แต่หากทางลูกค้าสงสัยว่าบริเวณไหนจะมีปลวกขึ้นสามารถแจ้งให้เข้ามาบริการได้ก่อนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเดิม
เคมีที่ใช้:
อาเจนด้า 25 อีซี (Agenda 25 EC)
คุณลักษณะทั่วไป
- ชื่อทางการค้า (Trade name): อาเจนด้า 25 อีซี ( Agenda 25 EC )
- กลุ่มสารเคมี (Chemecal Group): เฟนนิลไพราโซล ( Phenylpyrazole)
- ชื่อสามัญและอัตราส่วน (Commond name & %): ฟิโปรนิล 2.5% W/ V (Fipronil 2.5 W/ V)
- WHO Classification : Class III, Slightly toxic (พิษน้อย)
- ชนิดหรือรูปแบบ (Formulation): แบบสารละลายสูตรน้ำมัน (Emusifier Concentration)
- ลักษณะที่ปรากฏ (Appearance): ของเหลวใส สีเหลืองอ่อน
- กลิ่น (Odor): มีกลิ่นเฉพาะตัวเล็กน้อย ไม่ฉุน
คุณลักษณะพิเศษ
- กำจัดปลวกแบบตายต่อเนื่อง
- ป้องกันกำจัดปลวกได้เป็นระยะเวลานาน
- ฆ่าปลวก ไม่ไล่ปลวก
- ไม่ระคายเคืองตาและผิวหนัง
- กลิ่นอ่อนจาง ไม่ฉุน
- ไม่ระเหยเป็นไอ
- ไม่ละลายน้ำ (หลังจากเกาะเม็ดดินแล้ว)
- เกาะติดเม็ดดินได้ดีและคงทนต่อการชะล้าง
- ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม
- ให้ผลในการควบคุมได้ 100%
- สามารถออกฤทธิ์ป้องกันปลวกได้ยาว
- อาเจนด้า 25 อีซี ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- ถูกใช้ในปริมาณน้อย
- ไม่มีผลต่อการเจริญของพืชในดิน
- ไม่มีผลต่อไส้เดือน
- ไม่มีผลต่อรา แบคทีเรีย และสิ่งมีชีวิตเล็กๆในดิน
- เกาะติดกับดินได้ดี โดยไม่ถูกน้ำละลายหรือกรองออกจากดิน
การใช้งานเพื่อกำจัดปลวก
- วิธีการผสม: อาเจนด้า 25 อีซี 1 ลิตร : น้ำ 100 ลิตร
- วิธีการใช้งาน: ใช้ฉีดพ่น หรืออัดลง
กลไกการออกฤทธิ์ 2 รูปแบบ (เอกลักษณ์เฉพาะอาเจนด้า)
- การออกฤทธิ์แบบแรก (ที่ความเข้มข้นต่ำ): เมื่อปลวกเดินผ่านเข้าไปในบริเวณที่มีความเข้มข้นต่ำ ปลวกจะได้รับสารอาเจนด้าจากดินเข้าไป ทั้งด้วยการสัมผัสและการกิน โดยปลวกจะไม่ตามในทันทียังมีชีวิตอยู่ได้อีกระยะเวลาหนึ่ง และเมื่อกัลป์รังจะส่งต่อสารอาเจนด้า ไปให้ปลวกตัวอื่นๆในรัง ด้วยการป้อนอาหาร สัมผัสกัน ทำความสะอาดให้กันละกัน ลักษณะเช่นนี้จะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องลักษณะเหมือนปฏิกิริยาลูกโซ่ และในที่สุดปลวกก็จะตายหมดทั้งรัง
- การออกฤทธิ์แบบที่สอง (ที่ความเข้มข้นสูง): ปลวกที่ผ่ายเข้าไปในบริเวณที่มีความเข้มข้นสูง จะตายอย่างรวดเร็วจะไม่สามารถสร้างอุโมงทางเดินเข้าไปถึงโครงสร้างของสิ่งปลูกสร้างได้ ทำให้เกิดแนวกันปลวกที่จะช่วยหยุดปลวกไม่ให้เข้าไปทำลายตัวอาคารบ้านเรือน
